วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เทวดาชื่อ "บุเรงนอง" โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

เทวดาชื่อ "บุเรงนอง" เป็น กุมภัณฑ์ เป็นลูกศิษย์ของกรมหลวงชุมพร ฯ คือ ท้าววิรุฒหก
โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง


₪₪►Oº°`´°ºO◄₪₪►Oº°` ´°ºO◄₪₪

เมื่อคืนก็มีอีกองค์ เมื่อคืนก็มาทั้งสององค์มาด้วยกัน อีกองค์เป็นกุมภัณฑ์ ฉันเห็นยืนอยู่ข้างพระเจ้าพรหมมหาราช เครื่องทรงปกติก็คือทรงผ้าเตี่ยว ไอ้ผ้ายกรั้งนะ ถือกระบองใหญ่ ตัวขนาดพ้อมได้ นัยน์ตาก็ใกล้ๆ กระโถน ก็ถามว่า "คุณมานั่งทำไม" กุมภัณฑ์ "ผมเป็นหัวหน้าเทวดาฝ่ายกุมภัณฑ์ ครับ" ทีแรกฉันนึกว่าเป็นขั้นอำมาตย์ แกบอกไม่ใช่ ท่านบอก "เป็นอินทกะครับ" ทีนี้ต้องมีอินทกะทั้ง ๔ ทิศ คือทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก มาคุมทั้งหมด เพราะมีทองมากและมีพระบรมสารีริกธาตุก็เยอะ

เมื่อคืนนี้ฉันไม่ค่อยสบาย เขามาเยี่ยมกันเยอะ เห็นเทวดาทั้งสององค์นี้เข้าก็นึกถึงความหลังว่า เออ....ทั้งสององค์นี้เฝ้าวัดเรา ให้ความปลอดภัย ก็ถามอินทกะของ ท้าววิรุฬหก ว่า ถามว่า "ท่านเป็นคน เป็นใคร" 

ท่านบอกมาฉันตกใจ ผู้ชนะสิบทิศ คือบุเรงนอง 

ถาม "คุณชื่ออะไรแน่?"

ท่านบอก "ผม บุเรงนองครับ" 

เลยบอก "เฮ้ย ! บุเรงนองมันทำบาปมหาศาล เกิดเป็นเทวดาได้ยังไง ?"

ท่านบอกว่า " ผมก็ทำบุญเป็น ผมได้ฌานนะครับ เวลาบาปก็บาป นักรบต้องรบใช่ไหม เวลาปกติต้องมีทำบุญ" ไอ้วัดเมืองไทยที่วัดมากๆ นี่มันมาจากนักรบ เวลารบทัพจับศึก พอเลิกแล้วก็หาทางทำบุญ ถ้ามีทุนมากก็สร้างวัดสร้างวาร่วมกัน อย่างอำเภอสรรคบุรี ใกล้ๆ บริเวณอำเภอ มีวัด ๒๗๐ วัด วัดโบราณนะ สร้างสักถี่เชียว เพราะรบทัพจับศึกฆ่ากันมามาก พอเลิกจากการรบ ก็คิดว่าการรบเป็นบาป เลิกจากการรบก็ทำบุญ อันนี้ บุเรงนอง แกก็เป็นแบบนั้น ท่านบอก ๓ ครั้ง ทีแรกฉันไม่เชื่อหู ทีหลังแกตะโกนบอกเลย

" ผม บุเรงนอง ครับ" เลยบอก

"เออ..พอแล้ว หูแตก"

ปรากฎว่าเป็น กุมภัณฑ์ เป็นลูกศิษย์ของกรมหลวงชุมพร ฯ คือ ท้าววิรุฒหก เป็นอินทกะรองจากท้าวมหาราช นี่ใหญ่โตมาก อินทกะแปลว่า ผู้เป็นใหญ่ ใหญ่กว่าเทวดาอื่นทั้งหมด รองจากท้าวมหาราช สวัสดี *

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
วัดจันทาราม(ท่าซุง) อุทัยธานี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น