วันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2560

พลังคอสมิค เพื่อสุขภาพ


พลังคอสมิค
ค.ศ.1925 โรเบิร์ต เอ มิลิแคน นักฟิสิกส์จากสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย ค้นพบ รังสีคอสมิค และ สันนิษฐานว่าดวงดาวชื่อ พัลซาร์ ใน เนบูลารูปปู เป็นต้นกำเนิด เนื่องจากมันกระพริบส่งพลังงานเหมือนกับเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าในจักรวาล
รังสีคอสมิค เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่มีช่วงคลื่นสั่นแรงกว่า รังสีแกมม่า องค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นโปรตอน 90% และ พบอิเล็กตรอน อนุภาคแอลฟ่า 9-10 Herzt ด้วย จึงมีทั้งขั้วบวก และ ขั้วลบ หมุนเวียนวิ่งวนเป็นคู่ ล่างบน ซ้ายขวา หน้าหลัง สะท้อนกระจกเงาได้ มีคุณสมบัติเหมือนพลังงานอื่นๆ แต่เข้มข้นกว่า ปริมาณมากกว่า หนาแน่นกว่า พบได้ในทุกชั้นบรรยากาศของโลก สามารถซึมซับ ทะลุทะลวงผ่านสรรพสิ่ง เครื่องกีดขวางไปได้ทุกแห่ง รังสีนี้แผ่กระจายจากนอกโลก รวมเป็นหนึ่งเดียวกับพลังแสงอาทิตย์ บางส่วนผ่านดวงดาวต่างๆ จึงดูดซับแร่ธาตุแสงสีต่างๆ พุ่งเข้าสู่ใจกลางโลกด้วยความเร็วและความถี่มากกว่าแสงอาทิตย์ 10 เท่า และสะสมเป็นวงล้อมเปลือกโลก สูงจากพื้นดิน 15,000 เมตร ซึมซับเข้าไปในสรรพสิ่งต่างๆสะสมอยู่ในทั้งสิ่งไม่มีชีวิตและมีชีวิตบนโลก แร่ธาตุ พืช สัตว์ และ มนุษย์
รังสีนี้เกิดจากการที่ดวงอาทิตย์ สุริยจักรวาล และ จักรวาลทั้งหมดเคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา ทำให้มีการไหลเวียนไปทั่วทั้งจักรวาล รวมเรียกว่า พลังงานชีวิต
รังสีคอสมิคมีปริมาณเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ มีมากที่สุดในแสงแดดตอนเที่ยงวัน มีลักษณะเป็นพยับแดด แวววาว ระยิบระยับ เป็นแสงสีทอง มองเห็นด้วยตาเปล่า บนท้องฟ้ารังสีจะแยกชัดเจน หลังฝนตกมองเห็นเป็น สีรุ้ง 7 สี สีแดงจากพลังคอสมิคให้พลังมากที่สุด เป็นพลังงานที่จะปรับทุกอย่างให้มีความสมดุล
มนุษย์รับรู้การเคลื่อนไหลของพลังชีวิตด้วยประสาทสัมผัสภายนอก คือ ตา หู จมูก ลิ้น และ กาย และ สัมผัสละเอียดภายใน คือ จิต เพียงแต่มนุษย์ได้ปล่อยปละละเลยความละเอียดภายในกายและจิต ทำให้อ่อนล้าเสื่อมสลายไปเกือบหมด คนที่มีพลังสมาธิจิตสามารถควบคุมและนำส่งพลังคอสมิคไปที่เป้าหมายได้ทั้งใกล้และไกล ทั้งในทางสร้างสรรดีงาม หรือ ในทางชั่วร้าย พลังจะย้อนกลับมาที่ผู้ใช้ 3 เท่า พุ่งออกจากทุกส่วนของร่างกาย สัมผัสได้โดยเฉพาะทางฝ่ามือและปลายนิ้วมือ รังสีนี้สามารถปรับอาการผิดปกติ หรือ การเสียสมดุลของอวัยวะในร่างกายคนและสัตว์ได้ (Healing Power)
การทดสอบพลังคอสมิคในร่างกาย ศาสตราจารย์ นพ.ชิน บูรณธรรม กล่าวว่าคนทั่วไปอาจทดสอบได้ดังนี้
1. ลองเอานิ้วชี้ของมือข้างหนึ่ง จี้ตรงใกล้ๆฝ่ามืออีกข้างหนึ่ง (อย่าให้ชิด) จะรู้สึกว่าเกิดความรู้สึกซู่ซ่าขึ้น ณ จุดนั้น และเมื่อเราวนปลายนิ้วชี้นั้นเป็นวงกลม ก็จะรู้สึกซู่ซ่าไปตามแนววงกลม
2. เอาปลายนิ้วทั้ง 2 ข้างมาจ่อชนกัน แล้วแยกห่างออกมา เข้าๆออกๆ จะมองเห็นคล้ายฝ้าของไอน้ำสีน้ำเงินอ่อน วิ่งเป็นเส้นระหว่างนิ้วนั้นๆ และถ้ารวบนิ้วของแต่ละมือมาชิดกันแล้วมองภาพอะไรก็ได้ ผ่านทางช่องนิ้วของมือทั้ง 2 จะเห็นภาพนั้นมัวๆคล้ายผ้าไอน้ำมาบัง (อย่ามองย้อนแสง)


3. ลองเอาฝ่ามือทั้ง 2 ข้าง เข้ามาใกล้กันที่สุด แล้วแยกห่างราว 4-5 นิ้ว เข้าๆออกๆหลายๆครั้ง ในที่สุดลากเข้าให้ชิดกันอีกจะรู้สึกว่ามีแรงต้านเกิดขึ้น
พญ.กานดา ปัจจักขะภัติ รายงาน
ที่มา : การบรรยาย เรื่อง “พลังกายทิพย์เพื่อสุขภาพ” โดย คุณย่าเยาวเรศ บุนนาค ณ ห้องประชุมเบญจกูล สถาบันการแพทย์แผนไทย วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2546 เวลา 10.00-12.00 น.

ประวัติวิทยากร
คุณย่าเยาวเรศ บุนนาค เป็นผู้ก่อตั้ง สมาคมสถาบันพลังกายทิพย์เพื่อสุขภาพได้ดำเนินการสอนมาแล้ว 8 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2538 อบรมลูกศิษย์ไปแล้วประมาณ 50,000 คน ก่อตั้งเป็นสมาคมเมื่อ พ.ศ.2544 วัตถุประสงค์ในการก่อตั้งสมาคมเพื่อการรักษาโรคร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบัน และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่ประชาชนโดยไม่คิดค่าวิชา สมาคมได้เปิดอาคารที่ทำการของสมาคมเป็นที่บำบัดรักษาโรค โดยใช้อำนาจสมาธิและอำนาจพลังธรรมชาติมาช่วยบำบัด สอนวิชาพลังกายทิพย์ในระดับปฐมจักระใช้เวลา 6 วัน ซึ่งผู้ที่เรียนจบแล้ว หากนำวิชาที่ได้เรียนไปฝึกต่อไปทุกวันก็จะทำให้มีสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บเล็กๆน้อยๆของตน ตลอดจนบุคคลในบ้านและเพื่อนบ้านได้


ที่มา สำนักการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข  http://www.thaicam.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=186:2009-09-30-16-28-18&catid=50:2009-09-09-09-44-45&Itemid=84

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น