วันอังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

วงจรปฏิจจสมุปบาท

จากวงจรปฏิจจสมุปบาท จึงเวียนว่ายตายเกิดไม่มีที่สิ้นสุด
1. เพราะจิต หรือ ธาตุรู้ หรือวิญญาณธาตุ ถูกอวิชา คือ ความไม่รู้ ครอบงำ จึงเกิดสังขาร คือ การปรุงแต่งของจิต 
2.เมื่อเกิดสังขาร จึงเกิดวิญญาณ (ขันธ์) คือ สภาพรับรู้ของจิตผ่านทาง 6 ทวาร คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
3.เมื่อเกิดวิญญาณ (ขันธ์) จึงเกิด นามรูป คือ ร่างกาย
4. เมื่อเกิดนามรูป จึงเกิด เวทนา คือ ความรู้สึกทุกข์ สุข ดีใจ พอใจ
5.เมื่อเกิดเวทนา จึงเกิด สัญญา คือ ความจำได้ ความรู้จำสิ่งที่ปรากฏได้ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และความรู้สึกได้ทางใจ 
6. เกิด ตัณหา อุปทาน ภพ ชาติ ชรา และมรณะในที่สุด 

เมื่อปฏิบัติศีล สมาธิ (อานาปานสติ) และวิปัสสนา จิต (วิญญาณธาตุ) จะแยกออกจากขันธ์ 5 จิตเกิดปัญญา (วิชา) ทำลายความไม่รู้ (อวิชชา) เห็นตามความเป็นจริงว่า กาย เวทนา สัญญา สังขารและวิญญาณ ล้วนไม่ใช่เรา ไม่ใช่จิต เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป ตามกฏไตรลักษณ์ คือ ทุกขัง อนิจจังและอนัตตา หยุดวงจรวงจรปฏิจจสมุปบาท ไม่กลับมาเวียนว่าย ตายเกิดอีก คนที่ไม่ปฏิบัติจะมองไม่เห็นสิ่งนี้