วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2565

พระพุทธองค์ทรงปลอบพระนางยโสธราด้วยพระพุทธดำรัสอันอ่อนโยนว่า ...



"ยโสธราเอย ! พวกเราทั้งหลาย เหมือนเนื้อที่ติดบ่วง หรือนกที่หมกตัวอยู่ในกรง
ตถาคตได้ทำลายบ่วง และกรงออกไปก่อน หาใช่เพียงเพื่อเอาตัวรอดเพียงคนเดียวไม่
เมื่อตถาคตหลุดพ้นแล้ว 
จึงได้นำกำลังมาช่วยพวกเราทั้งหลาย
กำลังของเราคือ “ทศพลญาณ” อันมีอำนาจบันดาลให้ผู้ปฏิบัติตามคำสอนของเรา หลุดพ้นจากบ่วงและกรง เช่นเดียวกับเรา 
.บุคคลจะมีความสุขเต็มที่.ก็เพราะเป็นอิสระ ปราศจากเครื่องผูกพัน เที่ยวไปได้ตามปรารถนาเหมือนเนื้อในป่าที่ไม่ติดบ่วง ด้วยประการฉะนี้ ความทุกข์ทั้งปวง
ก็จะหลุดร่วงไปเอง
ยโสธราเอย .. ๖ ปี ที่เราจากไป ไปเพื่อประโยชน์ของเธอ ของพระประยูรญาติ
และของชาวโลกทั้งมวล
บัดนี้เราได้ค้นพบ สิ่งที่เราปรารถนาแล้ว 
และได้นำมาฝาก 
สิ่งนี้คือ อมตะธรรม อันบุคคลผู้ดื่มแล้ว 
ไม่ต้องเกิด แก่ เจ็บตาย อีกต่อไป
ยโสธรา ... เราได้รู้แจ้งแล้วว่า ความสุขอันเป็นโลกีย์ทั้งมวลมีที่สุดเป็นทุกข์ 
นันทิราคะ คือความกำหนัด อาศัยความเพลิดเพลินทั้งมวลมีที่สุดเป็นความเศร้า 
ความพอใจในภพทั้งปวง เป็นการร่านไป
ในหลุมถ่านเพลิงอันลุกโพลง 
ความสงบเยือกเย็น อันปราศจากกิเลสนั้นแลคือ รางวัลอันประเสริฐที่มนุษย์ควรขึ้นให้ถึง 
ยโสธราเอย ! ไม่มีความสุขใด เสมอด้วยความสงบ ไม่มีความสงบใด เสมอด้วยพระนิพพาน การดับกิเลสทั้งปวง"
..........................

ตอน #เสด็จกลับกรุงกบิลพัสดุ์
#ธรรมะ #อมตะธรรม #ธรรมะสอนใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น