วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2565

6 เมษายน วันจักรี แผ่นดินพระโพธิสัตว์เจ้าพระมหากษัตริย์ บุรพกษัตริย์ทั้งหลายยังทรงคุ้มครองลูกหลานอยู่

แม้ว่าภัยยังมาไม่ถึงโยม แต่โยมอย่านึกว่ามันยังไม่ถึงเวลา เข้าใจมั้ยจ๊ะ เหตุเพราะว่าสยาม..ยังมีองค์พระปฏิมากร ยังมีพระสยามเทวาธิราช ยังมีเทพเทวา ญาณพระบารมีครูบาอาจารย์สายพระกรรมฐาน ท่านยังแผ่เมตตาจิตปกคลุมไว้อยู่..

แล้วยังมีญาณพระโพธิสัตว์เจ้าพระมหากษัตริย์ บุรพกษัตริย์ทั้งหลายที่เค้าอธิษฐานจิตปกป้องรักษาสยามนี้ฝังไว้กับแม่พระธรณี..มันก็ยังคงตราตรึงอยู่ เรียกว่าอุ้มชูลูกหลานของชาวสยาม ที่ท่านทิ้งไว้ว่า..ให้เร่งประพฤติปฏิบัติในศีล ทาน ภาวนาให้พอสมตอนที่ยังพอมีเวลาอยู่ เข้าใจมั้ยจ๊ะ

ปฐมเหตุว่าสยามนี้แผ่นดินนี้ได้มาอย่างไร ต้องแลกด้วยเลือดเนื้อจิตวิญญาณ..ใช่หรือไม่ เพราะแผ่นดินที่เราเหยียบอยู่นี้..เราเหยียบบรรพชนเราอยู่ แสดงว่าบรรพชนนี้เค้ารองรับให้เราได้เหยียบย่ำ ให้เรานั้นได้เกิดขึ้นมา ถ้าจะย้อนไปถ้าไม่มีบรรพชนคนรุ่นเก่า..ก็จะไม่มีพวกโยมในวันนี้ 

แม้ว่าพวกโยมนั้นอาจจะไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ แต่ถ้าโยมเข้าถึงในจิตวิญญาณแห่งการเกิดแผ่นดิน แห่งการเกิดสยามนี้ เพื่อให้มีศาสนานี้ เอามาปกครองให้มันเกิดความร่มเย็นจิตร่มเย็นใจ เพื่อจะให้เข้าถึงกระแสพระรัตนตรัย แล้วบุคคลที่เค้าแลกชีวิต สละเลือดเนื้อและจิตวิญญาณ..เราจะปล่อยทิ้งเค้าไว้อย่างนี้หรืออย่างไร นั่นคือบรรพบุรุษของเราใช่หรือเปล่า..ก็คือทั้งแผ่นดิน เราต้องเห็นคุณค่า

ดังนั้นเรานั่นแลจะเป็นทายาทที่จะจุดแสงแห่งพระรัตนตรัยให้เกิดขึ้น อย่างนั้นแล้วเมื่อโยมมาประพฤติปฏิบัติ..ก็ขอให้คิดว่าให้สำคัญตนว่า เราไม่ได้มาเพียงลำพัง ยังมีญาติเผ่าพันธุ์ทั้งหลายบรรพชนที่ยังรอกระแสบุญ ที่ให้เราเปิดทางเข้าถึงความสว่างของจิต.. 

อันว่าเมื่อจิตเราเข้าถึงความสว่างเข้าถึงความสงบแล้ว อย่าลืมว่ากายเราได้มาจากที่ใด บิดามารดา ปู่ย่าตายาย มันจะส่งไปถึงรุ่นทวดรุ่นต่อๆไปที่ให้เราถือกำเนิดออกมาไม่จบสิ้นแห่งภพชาติ ดังนั้นแล้วการที่เราต้องรู้จักคุณแห่งบิดามารดา บรรพชน บรรพบุรุษที่ให้กายสังขารและแผ่นดินนั้น..มันจึงเป็นสิ่งสำคัญในการตอบแทน เรียกว่าความกตัญญู เรียกว่าการตอบแทนแผ่นดิน

อย่างนั้นแล้ว..เมื่อเรามีบุญมีวาสนา ให้เราตั้งจิตอธิษฐานไป..ขอกายสังขารทั้งหลายของข้าพเจ้า ลมหายใจที่ยังมีอยู่ในการประพฤติปฏิบัติ ในทานศีลภาวนา ในพรหมจรรย์นี้ ยกถวายกับบรรพชนบรรพบุรุษ บิดามารดาผู้ให้กำเนิด ผู้ให้คุณของข้าพเจ้า ขอให้กายสังขารของข้าพเจ้าได้มีคุณค่าได้ตอบแทนบิดามารดา ในลมหายใจในกายสังขารนี้..ให้เราได้อธิษฐานไป

เมื่อโยมรู้แผ่นดินนี้ว่าแผ่นดินนี้มาได้อย่างไร เราต้องเหยียบย่ำกระดูก เลือด เนื้อ เอ็น และน้ำตา กองซากศพที่ทำให้เป็นเราทุกวันนี้..ที่มันหล่อหลอม ฉันจึงบอกว่าทุกครั้งที่โยมมาเจริญกรรมฐาน ให้อธิษฐานบุญกุศลบารมีถวายระลึกถึง อุทิศบุญให้กับบรรพชนผู้ที่มีคุณ มีบุพกรรม มีวาสนา ที่ได้กอบกู้แผ่นดินให้เรามีที่อยู่ที่อาศัย ที่กินที่นอน.. 

ขอให้ได้รับผลบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำได้ประพฤติแล้ว ได้เข้าถึงแล้วในสรณะเป็นที่พึ่งในพระรัตนตรัย ขอแสงสว่างแห่งพระรัตนตรัยจงเป็นแสงสว่างอุดหนุนค้ำชูดวงจิตดวงวิญญาณทั้งหลาย ที่มีบุพกรรมวาสนากับข้าพเจ้า ที่หล่อเลี้ยงกายสังขาร ที่ให้มีแผ่นดินอยู่ได้สร้างกุศลและบารมี สืบไปจนกว่าจะเข้าถึงทางพ้นทุกข์คือพระนิพพาน..ให้เราได้อธิษฐานลงไปอย่างนี้ เค้าเรียกเป็นการอธิษฐานมหาบารมีใหญ่..

มูลนิธิเมืองธรรมพรหมรังสี สมเด็จพระพุฒาจารย์โต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น