วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2565

พระคาถา อิติปิโสมงกุฎพระเจ้าหรือพระอิติปิโสเรือนเตี้ย

🔺หลวงพ่อวัดโคนอน ตำบลบางหว้า อำเภอภาษีเจริญ
จ. ธนบุรี ผู้นี้
เป็นที่เลื่องลือในการพยาการณ์เหตุการณ์
อนาคตแม่นยำดุจตาเห็น จนแม้สมเด็จพระมหาสังฆราช
เจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์
ก็ทรงนับถือเลื่อมใส
ศรัทธาในการพยากรณ์ของหลวงพ่อเป็นอย่างมาก
เมื่อครั้งสมเด็จพระมหาบียราชเจ้า ร.5
เสด็จประพาส
ยุโรปครั้งที่ 2 ด้วยเหตุผลทางการเมือง เนื่องจากฝรั่งเศสยึด
ดินแดนไทย เมื่อ ร.ศ. 112
ซึ่งนำความขมขื่นสู่คนไทยที่
รักชาติทุกคน จนถึงกับ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ สักจารึก
ไว้ที่ท่อนพระกรว่า "ตราด 112" ด้วยความเจ็บช้ำพระหฤทัย
ก่อนจะเสด็จยุโรป
พระองค์ท่าน ได้ทรงให้หลวงพ่อวัดโคนอนถวายพยากรณ์ก่อน
ซึ่งหลวงพ่อได้ถวายพยากรณ์ว่า
การเสด็จประพาสในครั้งนี้ จะถูกชาวต่างชาติ "ลองดี" ด้วย
วิธีถวายสัตว์ดุร้ายให้สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า แต่พระองค์ท่าน
จำต้องสำแดงพระบารมีให้พวกนั้นได้ประจักษ์ หลวงพ่อจึงถวาย
พระคาถาไว้แด่พระองค์เพื่อปราบเหตุร้ายอันอาจเกิดขึ้นให้กลาย
เป็นดี เชิดชูพระบารมีสืบไป

ปรากฎว่า
คำพยากรณ์ของหลวงพ่อเป็นความจริง
เมื่อพระองค์เสด็จถึงยุโรป ณ ประเทศฝรั่งเศส มีผู้นำ
ม้าเทศมาถวายหนึ่งตัว
เบ็นที่ทราบกันในหมู่ชาวต่างประเทศเหล่านั้น ทุกคนว่า
ม้าเทศตัวนี้เบ็นม้าเทศที่มีพยศ และดุร้ายแรงเป็นที่สุด ได้ปราบ
น้าปราบม้าถึงตายมาแล้วหลายคน ไม่มีผู้ใดแตะหลังมันได้สำเร็จ
น้กปราบที่พยายามขึ้นหลัง ถูกสบัดโขกหน้าโขกหลังร่วงลงมา
ให้มันกระทึบ จนเดินทางไปหาพระเจ้าบนสวรรค์ หรือนรกแล้ว
ไม่น้อยกว่า 5-6 ราย
ท่าทีของมันขณะที่ถูกนำมาถวายต่อ
พระพักตร์นั้น ก็แสดงชัดเจนว่า มันดุร้ายแรงเพียงใด เพราะ
คนที่รั้งเหนี่ยวอยู่ตั้ง 4 คนยังยึดไว้แทบไม่อยู่ แต่พระองค์ทรง

ทราบแล้วจากคำพยากรณ์ของหลวงพ่อวัดโคนอน พร้อมทั้งมี
พระกำลังหทัยอย่างสูงตลอดจนทรงพระราชศรัทธาเชื่อมั่นในพระ
คาถาของหลวงพ่อ พระองค์จึงมิได้ทรงสะทกสะท้าน ตรงข้าม
พระองค์เสด็จเข้าไปใกล้ม้า ทรงหยิบหญ้าฟ่อนเล็กๆ ขึ้นมา
พ่อนหนึ่ง เพ่งสมาธิสำรวมเจริญภาวนาพระคาถานั้น เป่าไปที่
พ่อนหญ้าแล้วยื่นส่งให้ม้า ม้าก็อ้าปากรับไปเคี้ยวกลืนกิน
มหัศจรรย์บันดาลต่อหน้าผู้อยู่ในที่นั้นทุกคน !

ม้าซึ่งท่าทีดุร้ายแทบยึดไม่อยู่จากคน 4 คน มีอากัปกริยา
เรียบราบ
อาการผงกหน้าผงกหลังโขกขาโครมครามหายไป
มิหนำยังคู้ เข่าขาหน้า เงยหัวขึ้นลง คล้ายกับจะเป็นกริยาถวาย
ความเคารพ
พระองค์ก็เสด็จขึ้นเหยียบโกลนประทับบนหลัง
และยังทรงบังกับให้เดินไปมาวนรอบบริเวณทีนั้นอย่างสง่าผ่าเผย
สมขัตติยะวีรกษัตริย์
ไม่ต้องสงสัยละว่า ฝรั่งเศสตาน้ำข้าว จะตกตะลึง
ปานใด !
พระบารมีพระเกียรติยศ สะท้านกรุงปารีส แถะ ประเทศ
ฝรั่งเศสในครั้งกระโน้น

เมื่อเสด็จนิวัติพระมหานคร พ.ศ. 2449 ได้ทรงโปรค
เกล้าๆ พระราชทานสถาปนาหลวงพ่อวัดโคนอน
ทรง
สมณศักดิ์เบ็น พระกาวนาโกศลเถระ (เอี่ยม) และถวาย
วัดหลวง คือวัดหนัง ตำบลบางขุนเทียน
อำเภอบาง
ขุนเทียน จังหวัดธนบุรี ให้ครองแทนวัดโคนอน
พระคาถาของหลวงพ่อที่พระองค์ทรงเสกหญ้าให้ม้ากินนั้น
คือ พระคาถา อิติปิโสมงกุฎพระเจ้า
หรือที่เรียกอีกชื่อว่า
พระอิติปิโสเรือนเตี้ย

มีอักขระกวรท่องจำไว้ ใช้ประจำตัวดังต่อไปนี้:
อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธะนาเมอิ
อิเมนาพุทธะตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ
พระคาถาที่แท้จริง คงความศักดิ์สิทธิจริง ใช้ได้ทุก
สถานที่ ทุกแห่ง ทุกกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็นเมืองที่มี
เทวดาฝรั่ง
เทวดาแขก หรือ เทวดาเจ๊ก ก็ไม่อาจสู้
พระพุทธคาถาที่แท้จริง คงความศักดิ์สิทธิ์ของเราได้

บทความของคุณ สมบูรณ์ คนฉลาด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น