วันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2566

เวลาทำงานไปนี่ท่านก็บอกให้ภาวนาฝึกเข้าสมาธิไปด้วย

หลวงพ่อมีวิธีสอนง่ายดี
****
บอกสอนพระโยมที่นี่ให้ดูในบารมีเตือนจนบ่อยๆคงต้องพิมพ์ให้ติดประตูห้องแบบหลวงพ่อให้ติดประตูกุฏิ ทุกหลังที่วัดท่าซุงสมัยก่อนแล้วคงดีหากใครบวชยุคนั้นและเคยอยู่คงจำได้

สมัยก่อนราวปี33 ที่วัดท่าซุงนี่มีพระยังไม่มากสักราวยี่สิบกว่ารูปได้ อาตมาอยู่กุฏิ10หลังที่เป็นเรือนไม้ก่อนจะย้ายมาอยู่ห้องธัมมวิโมกข์ปี34ที่หลังโบสถ์ ที่กุฏิหลังที่2นี่ชั้นล่างจะมีกระดาษแปะสองสามแผ่น ที่หน้าประตูด้านใน ใครจะเปิดเข้าเปิดออกนี่ จะเห็นตลอดดูทุกวันเห็นทุกวันวันละหลายรอบนานไปก็ท่องได้เอง 
เรื่องพรหมวิหาร4, บารมี10,สังโยชน์10นี่ ดูจำแล้วก็ทำปฏิบัติไปด้วยเป็นวิธีนึงที่หลวงพ่อเอามาใช้ฝึกพระแบบนึงง่ายๆแต่สำคัญน้ะ

ฟังหลวงพ่อพูดนี่เข้าใจเลยท่านบอกยังทำไม่ได้ก็ให้ดูทุกวันเห็นทุกวันเดี๋ยวมันก็จำได้เอง จิตมันมีสภาพจำเป็นการฝึกจิตให้จำจนชินก่อนคู่กับการปฏิบัติทำไปด้วยแล้วนานไปมันก็เตือนเราเองทำให้มันติดอยู่ในใจจนเป็นปกติเลยอัตโนมัติที่นี้มันก็จะเตือนสติเราอยู่ตลอดเวลา
ในเรื่องเหล่านี้ สมัยนั้นพระเรานี่มีงานทำกันทุกวันงานก่อสร้าง งานเดินสายไฟ งานปลูกป่าปลูกต้นไม้งานต่างๆสารพัด และเวลาทำงานไปนี่ท่านก็บอกให้ภาวนาฝึกเข้าสมาธิไปด้วย จับอารมณ์กรรมฐานไปด้วย นึกถึงพระพุทธเจ้านึกถึงความตายนึกถึงพระนิพพาน ตายเมื่อใหร่ขอไปพระนิพพานเอาไว้ อาตมาหรือทุกคนก็ต้องทำตามนี้เป็นพื้นฐานหลักก็ได้เห็นอะไรต่างๆของตัวเราเองนี่จากวิธีการที่ท่านให้ทำ มันจริงๆท่านสอนของจริงคู่กับดูในกรรมฐาน40 กับวิธีปฏิบัติกรรมฐาน ที่ท่านสอนนี่ หากทำตามจริงทำถึงตรงเข้าใจที่บอกก็ได้จริงมรรคผลก็ตามมาได้จริง

ท่านสอนให้จับจุดง่ายๆแบบนี้ทำทุกวันทุกเวลาที่นึกได้ เพราะหลักใหญ่นี่ทิ้งไม่ได้เลย ให้ไล่ดูตนเองทุกวันว่าที่ดูทุกวันนี่ทุกเช้าว่าพร่องตรงไหน ตอนยังทำไม่ได้ก็ท่องใว้ก่อน เป็นการฝึกจิตให้จำคู่กับการทำ และท่านก็รับรองว่าหากทำแบบท่านว่าทุกวันแล้วนี่หากตายไปนี่ไปได้แน่นอน

ต้องกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่ทำให้ไม่มีวันไหนที่ลืมเลยจากวิธีแบบนี้ของท่านน้ะ สามารถเขียนแปะประตูห้องและนำเอาไปทำให้ได้น้ะ
******

ที่มา
พระอธิการสมมาศ(ลพ.ติงลี่)
วัดประตูด่านจ.กาญจนบุรี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น