วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2566

*ดี 10 อย่าง** หรือ **บุญ 10 อย่าง**

**ดี 10 อย่าง** หรือ **บุญ 10 อย่าง**
**ดีคือ บุญ หมายถึงสภาพของจิตที่ผ่องใส ดีงาม ให้ผลเป็นความสุข**

**ชั่วคือ บาป หมายถึงสภาพของจิตที่เศร้าหมอง เร้าร้อน ให้ผลเป็นความทุกข์**

**ธรรมสองอย่างนี้เกิดที่ใจและตรงกันข้าม**

**เมื่อบุญเกิด บาปก็เกิดไม่ได้**

**เมื่อบาปเกิด บุญก็หายไป**

**พระพุทธองค์ทรงกล่าวว่า ถ้าทำบุญช้าไป ใจจะยินดีในบาป**

**บุญอย่างย่อ 3 อย่าง คือ ทาน ศีล ภาวนา**

**ถ้าขยายเป็น 10 อย่าง บุญกิริยาวัตถุ 10 ได้แก่**

**1.ทานมัย** บุญสำเร็จจากการให้วัตถุเพื่อสงเคราะห์หรือบูชาแก่ผู้อื่น

**2.ศีลมัย** บุญสำเร็จจากการงดเว้นจากทุจริต หรือประพฤติสุจริตทางกาย วาจา

**3. ภาวนามัย ** บุญสำเร็จจากการอบรมจิตให้สงบจากกิเลส (สมถภาวนา) และการอบรมปัญญาเพื่อละกิเลสทั้งปวง(วิปัสสนาภาวนา)

**4 .อปจายนมัย **บุญสำเร็จจากการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตน

**5.เวยยาวัจจมัย **บุญสำเร็จจากการขวนขวายบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น

**6.ปัตติทานมัย **บุญสำเร็จจากการให้ส่วนบุญที่ได้บำเพ็ญมาแล้ว

**7.ปัตตานุโมทนามัย** บุญสำเร็จจากการยินดีในกุศลที่ผู้อื่นได้กระทำแล้ว

**8.ธัมมัสสวนมัย** บุญสำเร็จจากการฟังพระสัทธรรม

**9.ธัมมเทสนามัย ** บุญสำเร็จจากการแสดงพระสัทธรรม

**10.ทิฏฐุชุกรรม **การกระทำความเห็นให้ตรง ถูกต้องตามความเป็นจริง

#พระไตรปิฎก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น