วันพุธที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2566

#ต้องศึกษาปฏิบัติธรรมอย่างสันทิฏฐิโก

ถ้าไม่มีเรื่องสันทิฏฐิโกแล้วล้มเหลวหมด 
เรื่องของธรรมะจะขาดสันทิฏฐิโกไม่ได้
สิ่งที่จะต้องสันทิฏฐิโกก่อนเรื่องอื่นนั้น
ก็คือเรื่องตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ, 
เรื่องรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ
ธัมมารมณ์ คู่ปรับของมัน, คู่สร้างของมัน,
แล้วเกิดเป็นภาวิตญาณ เป็นผัสสะ
เป็นเวทนาอย่างไร นี้ต้องเป็นสันทิฏฐิโก.
แล้วก็เป็นเรื่องแรก ตามที่
พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า 
เป็นจุดตั้งต้นของพรหมจรรย์. ในส่วน
ปริยัติก็ต้องเรียนเรื่องนี้เป็นเบื้องต้น,
ปฏิบัติก็ต้องปฏิบัติเรื่องนี้เป็นเบื้องต้น,
ปฏิเวธก็ต้องได้ผลเกี่ยวกับเรื่องนี้
เป็นเรื่องแรก ; นี่สันทิฏฐิโก ที่ตา หู จมูก 
ลิ้น กาย ใจ ที่จะมาสันทิฏฐิโก 
กับ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ 
ธัมมัง สาระณัง คัจฉามิ ยากนะ, 
นี้ว่าแต่ปากทั้งนั้น ยังไม่สันทิฏฐิโก
นี้ยากที่สุด. แล้วค่อยศึกษาเพิ่มเติมๆ 
จนกว่าจะสันทิฏฐิโก.

เราต้องดับทุกข์ในหัวใจของเราเอง
ให้ได้เสียก่อน ; จะเห็นพระพุทธ
พระธรรม พระสงฆ์ ที่เป็นสันทิฏฐิโก
ได้ก็ต่อเมื่อเราดับทุกข์ได้ 
ในจิตใจของเราเอง ; 
สันทิฏฐิโกทางปริยัติ
นี้เป็นแนวบ้างเท่านั้น ; 
แต่มันไม่ใช่ตัวจริง  
แต่ก็ยึดไว้ก่อน
เพื่อเป็นหลัก เป็นแผนที่ 
พอจิตดับทุกข์ได้ รู้สึกว่าไม่มีทุกข์ทีหนึ่ง
ก็โอ้ พระพุทธเจ้า เป็นอย่างนี้ 
พระพุทธเจ้าองค์ไหนที่ไหนเมื่อไร
ก็เป็นอย่างนี้เอง, คือความดับทุกข์
พระสงฆ์ผู้ดับทุกข์ตามก็เป็นอย่างนี้เอง ; 
เมื่อนั้นแหละ มีสันทิฏฐิโกในพระพุทธ
ในพระธรรม ในพระสงฆ์ ขึ้นมา.

พุทธบริษัททุกคนแหละ 
อย่าปล่อยปละละเลยในเรื่องที่จะ
ทำให้มีสันทิฏฐิโกในตัวพระธรรม
ในตัวพระศาสนา.

🪷 พุทธทาสภิกขุ
      ธรรมะเล่มน้อย 
      หน้า ๒๙-๓๑

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น