วันเสาร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ตายจากหญิงสาวอายุ ๑๘ ปี ไปรออยู่ที่สำนักพระยายมราชแล้วไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก

**ตายจากหญิงสาวอายุ ๑๘ ปี เมื่อ ๓ ปีที่แล้วได้ไปวัดท่าซุงกับแม่ ไปเพื่อรับยันต์เกราะเพชร แม่ได้ถวายสังฆทาน เธอเกาะถังใส่สังฆทานและพระพุทธรูป ประเคนหลวงพ่อไปรออยู่ที่สำนักพระยายมราชแล้วไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก หลวงพ่อฤาษี**

 ตายจากหญิงสาวอายุ ๑๘ ปี ไปรออยู่ที่สำนักพระยายมราชแล้วไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก
 
 
 “..มีสาวอายุ ๑๘ ปี อยู่จังหวัดอุบลราชธานี ตายเมื่อปลายเดือนสิงหาคม ๒๕๓๑ เธอมีรูปร่างค่อนข้างโปร่ง ผิวคลํ้า มีไฝหรือขี้แมลงวันที่โคนขา ทราบจากการสอบถามเธอเมื่อเสร็จจากการสอบสวนแล้ว เมื่อถูกนำตัวเข้าไปสอบสวน ผู้รายงานที่โต๊ะขวามือท่านพระยายมราชได้รายงานบาปของเธอว่า เธอสุ่มปลา จับกบ จับเขียด ปลาไหล ตีงู เพื่อนำมาเป็นอาหาร เธอยอมรับหมด เมื่อเจ้าหน้าที่ประกาศเรื่องทำบุญว่า เธอเคยใส่บาตรแทนแม่เพราะแม่ใช้ให้ใส่บาตร เธอเคยบูชาพระ เธอเคยไปทำบุญที่วัด เคยถวายสังฆทาน เธอยอมรับว่าทำจริง
 
 เจ้าหน้าที่กล่าวต่อไปว่า เธอเคยขโมยไก่ชาวบ้าน

เธอค้านบอกว่า “ไก่จะฆ่าในวันรุ่งขึ้น **เธอขโมยไปปล่อยที่วัดเพื่อให้ไก่พ้นจากการถูกฆ่า”**

เมื่อพูดจบ ก็มีไก่ตัวเมียขนลายเดินเข้ามา ไก่ยืนยันว่าคือไก่ที่ถูกเธอขโมย เพราะบ้านนั้นเขาเชือดไก่ขาย วันรุ่งขึ้นจะถูกฆ่า เกิดความไม่สบายใจจึงเดินมาข้างกรงขังเวลากลางคืน พอดีสาวคนนี้เดินมา ไก่จึงยืนดูเธอ เธอได้จับไก่ขึ้นมาแล้วพาไปปล่อยที่วัดใกล้บ้านที่เธอเคยไปทำบุญ **เวลานี้ยังมีชีวิตอยู่**

**มาถึงตรงนี้เกิดสงสัยว่า เมื่อไก่ยังไม่ตาย ไก่มาสำนักพระยายมราชได้อย่างไร
 **
 ท่านพระยายมราชบอกว่า **“ด้วยบุญของเมตตาบารมีของเธอ บันดาลให้เกิดภาพไก่มารายงาน”**

เมื่อการสอบสวนเสร็จ ท่านบอกว่า “ความดีของเธอมีมาก ที่ทำบาปเพราะความยากจนบังคับ” ท่านจึงเห็นใจแล้วถามว่า

“**บุญอะไรที่เธอมั่นใจและจำฝังจิตใจ**”

เธอตอบว่า “**ถวายสังฆทาน เมื่อ ๓ ปีที่แล้วได้ไปวัดท่าซุงกับแม่** **ไปเพื่อรับยันต์เกราะเพชร แม่ได้ถวายสังฆทาน เธอเกาะถังใส่สังฆทานและพระพุทธรูป ประเคนหลวงพ่อองค์นี้”**เธอชี้มาทางผู้เขียน ภาพนี้เธอจำติดตาและติดใจตลอดเวลา

และเมื่อรับยันต์ท่านให้ภาวนา “พุทโธ” เพื่อรักษายันต์ไว้ป้องกันอันตราย เธอก็ภาวนาเสมอ **แต่ทว่าเวลาสุ่มปลาวันไหนภาวนา“พุทโธ” ไปด้วย วันนั้นไม่ได้ปลา ดังนั้นเวลาจะสุ่มปลาต้องละพุทโธชั่วคราว**
 
 เมื่อท่านพระยายมราชฟังแล้วจึงบอกว่า **“เอ็งไปรับผลบุญก่อน ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์วิมานมีคอยเอ็งอยู่แล้ว” **แล้วท่านก็สั่งเทวทูตให้พาไปวิมานของเธอ มีเทวดาท่านหนึ่งพาเธอไปวิมาน

วิมานของเธอเป็นวิมานอันดับสูงสุดของวิมานทองคำ ทองสุกอร่ามมาก เครื่องประดับวิมานสวยมาก เครื่องประดับกายก็สวย แต่ผ้าที่นุ่งสีเขียว

ถามเธอว่า “**เพราะอะไรจึงมีผ้านุ่งสีเขียว**”

เธอตอบว่า “**เมื่อเป็นมนุษย์ชอบสีเขียว**”

ถามเธอว่า “**ความดีที่เป็นบุญมีมากขนาดนี้น่าจะไปสวรรค์เลย ไม่น่าจะต้องมาสอบสวน**”

เธอตอบว่า “**เธอป่วยเป็นโรคปวดท้อง มันปวดเสียดมาก จะนึกถึงบุญและภาวนาไม่ไหว แม่บอกให้นึกถึงพระก็นึกไม่ไหว มันปวดเสียดมากจริงๆ** ขณะที่ป่วยหนักใกล้ตาย เห็นภาพงูลายสอที่เคยตีเอามาให้พ่อเลื้อยมา หลังจากนั้นอารมณ์ก็มืด นึกถึงบุญไม่ออก อารมณ์มืดไปครู่หนึ่ง มารู้สึกตัวเมื่อเห็นคน ๔ คนนุ่งกางเกงแดงไปรับบอกว่า “ไปเถอะถึงเวลาแล้ว” ก็เดินมากับเขา

เขาพาไปรวมกับพวกรอการสอบสวน พอดีกับที่อาตมาไปถึง ก็ถึงวาระที่เธอต้องเข้ารับการสอบสวนพอดี เวลานี้เธอเป็นสุขแล้ว เป็นห่วงพ่อกับแม่

เธอบอกว่า “เธอกำลังเตรียมตัวไปหาพ่อกับแม่”

ถามถึงฐานะเมื่อเป็นมนุษย์

เธอบอกว่า ฐานะยากจน ที่ต้องทำบาปเพราะความจำเป็น ไม่ทำก็ไม่มีกับข้าว ใจจริงแล้วไม่อยากทำบาป ชอบทำบุญมากกว่า..”

#ตายแล้วไปไหน_หลวงพ่อฤาษี

#รวมคำสอนพ่อแม่ครูอาจารย์15 #หลวงพ่อฤาษี7

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น