วันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

เนกขัมมะบารมี

เนกขัมมะบารมี 
สมเด็จองค์ปัจจุบัน สมเด็จองค์ปฐม
  เมื่อวันอังคารที่ ๑๕ มิ.ย. ๒๕๓๖ เพื่อนผู้ร่วมปฏิบัติธรรมร่วมกับผม ท่านฟังเทปที่หลวงพ่อท่านสอน เรื่อง ทานหรือจาคะก็นำไปสู่พระนิพพานได้ หากเราทำบารมีได้ให้เต็ม จะมีผลทำให้บารมีอื่น ๆ อีก ๙ บารมีเต็มได้ด้วย ในการปฏิบัติบารมี ๑๐ หลวงพ่อเริ่มจากทานบารมีก่อน เพื่อนผมฟังแล้วก็พิจารณาว่า สำหรับตนเอง ขอเลือกเอาเนกขัมมะบารมีเป็นบาทต้น เมื่อนึกถึงจุดนี้ สมเด็จองค์ปัจจุบัน ก็ทรงพระเมตตามาตรัสสอนว่า

  ๑. ถ้าจักยึดเนกขัมมะบารมีเป็นบาทแรก ก็สมควรและเหมาะสมดี สำหรับข้อวัตรปฏิบัติเพื่อเนกขัมมะบารมี ขอให้เจ้าจดจำคำตรัสในโอวาทปาฏิโมกข์ คือ

  ก) สัพพะปา ปัสสะ อะกะระณัง คือ ไม่ทำชั่ว ทั้งกาย วาจา ใจ ให้หมั่นค่อย ๆ ละไป โดยยึดหลักสังโยชน์เป็นเครื่องวัด

  ข) กุ สะ ลัส สู ปะ สัมปะทา คือ พยายามทำแต่ความดี ทั้งกาย วาจา ใจ โดยอาศัยสังโยชน์เป็นหลัก

  ค) สะ จิต ตะ ปะริโย ทะ ปะนัง คือ ทำจิตให้ผ่องใส เพียรใช้ปัญญาละจากสังโยชน์ ๑๐ อย่าให้เป็นเครื่องร้อยรัด วาจา และใจ ให้เศร้าหมอง นี่คือหลักการของเนกขัมมะบารมี ที่พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ตั้งแต่องค์ปฐมทรงวางไว้

  ๒. จากนั้นสมเด็จองค์ปฐมทรงเสด็จมาเป็นประธาน ทรงตรัสว่า เราทุก ๆ พระองค์จักพอใจมาก ถ้าหากเจ้าสามารถปฏิบัติตามข้อวัตรของเนกขัมมะบารมีให้มีผล เพราะเป็นจุดประสงค์ตรงความต้องการของเราทุก ๆ พระองค์ จักขนเหล่าสัตว์ทั้งหลายให้เข้าถึงพระนิพพาน ด้วยการบวชในเนกขัมมะบารมี คือ การบวชเพื่อความดับไม่มีเชื้อ ดับกิเลส คือ สังโยชน์ ๑๐ ให้หลุดออกไปจากการยึดเกาะของจิต จงตั้งใจไว้ในเนกขัมมะบารมี หมั่นทำตามข้อวัตรปฏิบัตินี้ให้เกิดขึ้นกับจิตอยู่เนือง ๆ ระลึกถึงหลักปฏิบัตินี้อย่าให้ขาด มีศีล สมาธิ ปัญญา ตั้งอยู่เฉพาะหน้าเป็นประจำ จึงจักยังจิตให้ถึงพร้อมตามหลักคำตรัส พระโอวาทปาฏิโมกข์นั้น ๆ

  ๓. เมื่อเจ้าคิดได้โดยตั้งใจเอาเนกขัมมะบารมีเป็นบาทแรกแล้ว ต่อไปเมื่อทบทวนบารมี ๑๐ ก็จงเอาเนกขัมมะบารมีขึ้นหน้า แล้วนำมาเป็นข้อวัตรปฏิบัติ ดึงเอาบารมีอีก ๙ ประการมาเป็นองค์ประกอบ จุดนี้จักทำให้บารมี ๑๐ ของเจ้าเต็มได้

  ๔. จงหมั่นระวังขันธมารและกิเลสมารเข้ามาขัดขวาง การทำความเพียรในเนกขัมมะบารมีนี้ด้วย

  ๕. ธรรมารมณ์ใดที่เป็นศัตรู ขัดกับพระโอวาทปาฏิโมกข์ เจ้าจงหมั่นละธรรมารมณ์นั้นให้ออกไปจากจิตเสียโดยไว

  ในวันเดียวกันนี้ พอเพื่อนของผมท่านรู้ข่าว เรื่องเปลือกหรือขันธ์ ๕ ที่หลวงพ่อท่านเคยอาศัยอยู่ชั่วคราวนั้น มีการเปลี่ยนแปลงไปบางส่วน ซึ่งมันก็เป็นของธรรมดา แต่จิตของเพื่อนผมมันฟุ้งออกนอกทาง มีการปรุงแต่งธรรม ซึ่งเป็นอุปาทานทำให้เกิดอารมณ์ ๒ คือ พอใจกับไม่พอใจ ทำจิตของตนเองให้เศร้าหมอง ซึ่งขัดกับเนกขัมมะบารมี ซึ่งเพิ่งได้รับคำสอนจากสมเด็จองค์ปฐม ก็ต้องหยุดปรุงแต่งธรรมต่อไป 

หลวงปู่บุดดา ท่านก็เมตตามาสอนว่า

  ๑. พระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ อย่างท่านฤๅษีตายได้รึ (ก็ตอบว่าไม่ตายค่ะ)
  ๒. เอ้อ แล้วไป ข้าคิดว่าเอ็งจะตอบว่าตายได้เสียอีก เรื่องขันธ์ ๕ เอ็งอย่าเพิ่งไปสนใจเลย ปล่อยไว้ให้เป็นเรื่องของพระท่าน สนใจการปฏิบัติธรรมให้ละสังโยชน์ ๔ - ๕ ให้ได้เสียก่อน
  ๓. แล้วอย่าลืมจรณะ ๑๕ เสียล่ะ พระพุทธเจ้า พระอริยสงฆ์ ท่านมีกันครบทุกข้อจึงจะถึงนฤพานได้ เนกขัมมะบารมี จึงจะมีผล ข้าไปละ

ธรรมนำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๕ เดือนมิถุนายน ๒๕๓๖ ตอน ๑
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน
#สมเด็จองค์ปฐม  #ธรรมนำไปสู่ความหลุดพ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น