วันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

**ให้เลิกบ่น เพราะเป็นอารมณ์ปฏิฆะ**

**ให้เลิกบ่น เพราะเป็นอารมณ์ปฏิฆะ**
เมื่อวันพุธที่ ๒๐ ก.ค. ๒๕๓๖ **สมเด็จองค์ปฐม** ทรงเมตตามาสอนให้ดังนี้

๑. "**ให้เลิกบ่น เพราะเป็นอารมณ์ปฏิฆะ** (เพื่อนผมท่านคิดว่า น่าจะให้คุณหมอคอยเตือนด้วยเวลาบ่น) **หลวงพ่อก็มาบอกว่า** เอ็งมันต้องเตือนตัวเอง มันถึงจะจำ ไปให้คนอื่นเขาเตือน จิตมันไม่จำหรอก **ทุกอย่างต้องพึ่ง อัตตนาโจทยัตตานัง เตือนตนเองทั้งนั้น อารมณ์ของตนมันชั่วหยุดไว้ไม่อยู่ แล้วใครที่ไหนจะมาช่วยหยุดได้**"

๒. ทรงตรัสว่า "ในเมื่อเจ้ากำหนดรู้ได้ว่าอารมณ์ใดเป็น**อารมณ์ที่ตกเป็นทาสของนิวรณ์เข้ามารบกวน** ก็จงหมั่นระงับนิวรณ์นั้นในทุกครั้งที่กำหนดรู้ว่ามีอารมณ์ในขณะจิตนั้นลงด้วยเถิด"

๓. "**ต้องทำการระงับให้บ่อย ๆ จักได้มีสติรู้เท่าทันอารมณ์ของจิตที่ตกเป็นทาสของนิวรณ์เข้ารบกวน ระงับได้มากเท่าไหร่ ผลของการปฏิบัติจักได้มากขึ้นเท่านั้น**

"

๔. "**อารมณ์ใดที่เกิดกับจิต เจ้าต้องหมั่นกำหนดรู้ **อย่าคิดปล่อยอารมณ์ไป โดยคิดว่า ไม่เป็นไร นั่นคือการประมาทในธรรมโดยแท้"

๕. "**โดยเฉพาะอย่างยิ่งอารมณ์หลง** ที่คิดว่าไม่เป็นไร เรายังจักไม่ถึงที่ตาย แล้วเที่ยวส่งจิตไปว่าคนนั้นคนนี้ ตำหนิกรรมของผู้อื่นไปตามความไม่ชอบใจ สรรเสริญคนโน้นทีไปยุ่งก้าวก่ายกับกฎของกรรมของผู้อื่น"

๖. "**มัวแต่มีอารมณ์ยินดี ยินร้าย ในกรรมของบุคคลอื่น ทำให้เสียผลของการปฏิบัติ** **เขาดีหรือเขาเลวก็ไม่ได้มาช่วยให้จิตของเจ้าดีขึ้น**ถ้าหากละเลยไม่สนใจผลของการปฏิบัติ มัวแต่มองผลของกรรมของบุคคลอื่น สังขารุเบกขาญาณก็เกิดขึ้นได้ยาก"

๗. "อย่าลืม อารมณ์ใครก็ไม่สำคัญ สำคัญที่อารมณ์จิตของเรา พยายามดูอารมณ์ของตนเองเข้าไว้เป็นสำคัญ"

๘. "อารมณ์คนอื่นดูแล้วละไปจากอารมณ์ของเราโดยเร็ว ให้ลงตัวปกติในธรรมของบุคคลนั้นๆ อย่าใช้อารมณ์ของเราเข้าไปปรุงแต่งธรรม มันจักทำให้อารมณ์จิตของเราเสีย ทำให้เกิดอารมณ์ตำหนิกรรมไม่มากก็น้อย"

๙. "จงระมัดระวังให้มาก **ดูอารมณ์จิตตรงนี้เอาไว้ให้ดี ๆ ที่เอาดีกันไม่ค่อยจักได้ ก็เพราะมัวแต่สนใจอารมณ์ของบุคคลอื่นนี่แหละ**"

๑๐. "**ขาดอุเบกขารมณ์เป็นสำคัญ**พรหมวิหาร ๔ ขาดตัวปลายอีก ๓ ตัว กำลังก็ยังอ่อน เจ้าจงหมั่นพยายามเจริญพรหมวิหาร ๔ ให้มาก ไม่ใช่ท่องจำ ต้องหมั่นเอามาคิดพิจารณาทุกครั้งที่จิตเสวยอารมณ์ที่เบียดเบียนตนเอง ต้องรู้ด้วย - จำด้วย และทำด้วยในพรหมวิหาร ๔ อย่าจำแค่ตัวหนังสือ จักหาผลได้ยาก **พรหมธรรมทำไม่ได้ ก็เป็นพระอนาคามีไม่ได้ จักหวังอะไรกับพระอรหัตผล**"

๑๑. "จงหมั่นทำไป อย่าละความเพียร และห้ามบ่นท้อแท้ด้วย กิเลสมันไหลออกมาทางวาจา ยิ่งบ่นยิ่งเพิ่มอารมณ์ จักมีประโยชน์อันใด เลิกจริยานี้เสียที"

ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๖

รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน

#สมเด็จองค์ปฐม2** **#ธรรมนำไปสู่ความหลุดพ้น2

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น