วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2563

วัฏสงสาร 31 ภูมิ

☘️วัฏสงสาร 31 ภูมิ☘️
พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลายเป็นพระผู้หลุดพ้นออกไปจากภูมิ 31 อย่างสิ้นเชิงแล้ว สถิตเสถียรอยู่ในโลกุตตรภูมิ นอกโลกเหนือโลกอันเป็นวัฏสงสารที่จะต้องเวียนว่ายตายเกิดกันอยู่ต่อไป

🌸ภูมิ 31 ที่หลายรูปหลายนามยังจะต้องท่องเที่ยวอยู่ต่อไปอีกนานเท่าไหร่ไม่อาจทราบได้ มีดังต่อไปนี้🌸

☘️1.นิรยะ คือนรก ยังแยกออกเป็นขุม ๆ อีกมากมายหลายขุม
☘️2.ดิรัจฉานโยนิ กำเนิดดิรัจฉาน คือสัตว์เดรัจฉานทั้งหลาย
☘️3.ปิตติวิสัย คือแดนเปรต ก็มีอีกมากมายหลายจำพวก
☘️4.อสุรกาย พวกอสูร คือไม่ใช่เทพเทวดาหรือพรหม
☘️5.มนุษย์ คือชาวมนุษย์เช่นเราเช่นท่าน และยังมีมนุษย์ที่ไม่เป็นเช่นเราท่านอีก 3 ทวีป 
มนุษย์เช่นเราเช่นท่านเรียกว่ามนุษย์ชมพูทวีป คือ 
มนุษย์อุตตรกุรุทวีป มนุษย์ผู้มีศีล 5 (ปัญจศีล) เป็นวิสัย เช่น มนุษย์ลับแลบังบด
มนุษย์อมรโคยานทวีป พวกอยู่ในอากาศเหมือนเทพชั้นจาตุมหาราชิกา
มนุษย์ปุพพเทหทวีป เทพในสวรรค์ประเภทผิดอาญาสวรรค์มาอยู่ อาจเป็นพวกเทพที่ยังยึดติดอยู่กับทรัพย์สมบัติในโลกมนุษย์เช่น ปู่โสมเฝ้าทรัพย์ หรือพวกเทพที่ยังห่วงลูกหลาน ตัดไม่ขาดเช่นผีเหย้าผีเรือน เป็นต้น
☘️6.สวรรค์ชั้นที่ 1 คือ จาตุมหาราชิกา มี 4 เทพท้าวมหาราชปกครองในสี่ทิศ
☘️7.สวรรค์ชั้นที่ 2 คือ ดาวดึงส์ แดนแห่งเทพ 33 องค์เป็นใหญ่ มีท้าวสักกะเป็นเทวราช
☘️8.สวรรค์ชั้นที่ 3 คือ ยามา เป็นเทพที่มีจิตรักษาศีลบริสุทธิ์เช่นพวกรักษาอุโบสถศีล
☘️9.สวรรค์ชั้นที่ 4 คือ ดุสิต แดนแห่งเทพผู้เอิบอิ่มด้วยสิริสมบัติคือบารมีของตน อันเป็นที่อยู่ของพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย
☘️10.สวรรค์ชั้นที่ 5 คือ นิมมานรดี แดนแห่งเทพผู้ยินดีในการเนรมิต เป็นที่อยู่ของพวกที่ให้ทานไว้มาก ประสงค์สิ่งใดก็เนรมิตเอาได้
☘️11.สวรรค์ชั้นที่ 6 คือ ปรนิมมิตวสวัสตี แดนแห่งเทพที่มีเทพอื่นเนรมิตให้ ซึ่งเป็นที่อยู่ของพวกที่ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นไว้มาก เมื่อประสงค์สิ่งใดก็จะมีผู้คอยเนรมิตให้เสมอ
☘️12.รูปพรหมชั้นที่ 1 คือ พรหมปาริสัชชา เป็นพวกบริษัทบริวารมหาพรหม
☘️13.รูปพรหมชั้นที่ 2 คือ พรหมปุโรหิตา พวกปุโรหิตมหาพรหม(ที่ปรึกษาของมหาพรหม)
☘️14.รูปพรหมชั้นที่ 3 คือ มหาพรหม พวกท้าวมหาพรหม
☘️15.รูปพรหมชั้นที่ 4 คือ ปริตตาภา พวกพรหมมีรัศมีน้อย
☘️16.รูปพรหมชั้นที่ 5 คือ อัปปมาณาภา พวกพรหมมีรัศมีประมาณไม่ได้
☘️17.รูปพรหมชั้นที่ 6 คือ อาภัสสรา คือ พวกพรหมมีรัศมีสุกเปล่งปลั่งซ่านไป
☘️18.รูปพรหมชั้นที่ 7 คือ ปริตตสุภา คือ พวกพรหมมีลำรัศมีงามน้อย
☘️19.รูปพรหมชั้นที่ 8 คือ อัปปมาณสุภา คือ พวกพรหมมีลำรัศมีงามประมาณมิได้
☘️20.รูปพรหมชั้นที่ 9 คือ สุภกิณหา คือ พวกพรหมมีลำรัศมีงามกระจ่างจ้า
☘️21.รูปพรหมชั้นที่ 10 คือ เวหัปผลา คือ พวกพรหมมีผลบริบูรณ์
☘️22.รูปพรหมชั้นที่ 11 คือ อสัญญีสัตว์ คือ พวกพรหมเป็นสัตว์ซึ่งไม่มีสัญญา(มีรูปแต่ไม่มีชีวิต ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงเรียกว่า อายตนะ)
☘️23.รูปพรหมชั้นที่ 12 คือ อวิหา คือ พวกพรหมผู้ไม่เสื่อมจากสมบัติของตน หรือผู้ไม่ละไปเร็ว ผู้คงอยู่นาน
☘️24.รูปพรหมชั้นที่ 13 คือ อตัปปา คือ พวกพรหมผู้ไม่ทำความเดือดร้อนแก่ใคร ๆ หรือผู้ไม่เดือดร้อนกับใคร
☘️25.รูปพรหมชั้นที่ 14 คือ สุทัสสา คือ พวกพรหมเหล่าผู้งดงามน่าทัศนา
☘️26.รูปพรหมชั้นที่ 15 คือ สุทัสสี คือ พวกพรหมผู้ที่เห็นได้ชัด
☘️27.รูปพรหมชั้นที่ 16 คือ อกนิฏฐา คือ พวกพรหมผู้สูงสุด
☘️28.อรูปพรหมชั้นที่ 1 คือ อากาสานัญจายตนภูมิ คือ พวกพรหมที่ไม่มีรูป เพราะเข้าถึงอากาศไม่มีที่สิ้นสุด
☘️29.อรูปพรหมชั้นที่ 2 คือ วิญญาณัญจายตนภูมิ คือ พวกพรหมที่ไม่มีรูป เพราะเข้าถึงภาวะมีวิญญาณไม่มีที่สิ้นสุด
☘️30.อรูปพรหมชั้นที่ 3 คือ อากิญจัญญายตนภูมิ คือ พวกพรหมที่ไม่มีรูป เพราะเข้าถึงภาวะที่ไม่มีอะไรเลย
☘️31.อรูปพรหมชั้นที่ 4 คือ เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ คือ พวกพรหมที่ไม่มีรูป เพราะเข้าถึงภาวะมีสัญญาก็ไม่ใช่ ไม่มีสัญญาก็ไม่ใช่(ไม่มีรูป แม้ชีวิตก็เกือบไม่มี ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงเรียกว่า อายตนะ

ปุถุชน พระโสดาบันและพระสกทาคามี ย่อมไม่เกิดในสุทธาวาสนภูมิ ซึ่งเป็นที่เกิดของพระอนาคามี คือรูปพรหมตั้งแต่ชั้นที่ 12 ถึงชั้นที่ 16 หรือข้อที่ 23 ถึงข้อที่ 27 พระอริยะไม่เกิดในอสัญญีภพ หรือรูปพรหมชั้นที่ 11 หรือข้อที่ 22 และในอบายภูมิ คือตั้งแต่ข้อ 1 ถึงข้อ 4 ในภูมินอกจากนี้มีทั้งพระอริยะและมิใช่พระอริยะไปเกิด 

ใน 31 ข้อนั้น คือ 31 ภูมิ อันเป็นโลกและโลกธาตุที่เป็นวัฏสงสาร เป็นข่ายที่ดักจับสัตว์โลกทั้งหลายไว้มิให้หลุดรอดไปได้ง่าย ๆ ด้วยอาศัยอวิชชาของสัตว์โลกเป็นพื้นฐานเพื่อชักจูงให้หลงผิดติดอยู่ ให้ตัณหาเป็นอาหารหลอกล่อให้เสพ ให้กินไม่เว้นว่าง ใส่อุปาทานให้ยึดมั่นถือมั่น ขยับไม่ออก หลุดไม่ได้ไปไม่พ้นอยู่รอบแล้วรอบเล่า

~จากเว็บพลังจิต~

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น