วันพุธที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2566

#อดีตชาติหลวงพ่อฤาษีตอนเกิดเป็นขุนหลวงพระงั่ว

 ท่านผกาพรหมก็บอกว่า “นี่พ่อพรหมจ๋า ในฐานะที่ปรารถนาพุทธภูมิ พระพุทธศาสนาจะทรงอยู่ในประเทศไทย แต่ถ้าไทยยังแตกกันอยู่อย่างนี้เพียงใด พระพุทธศาสนาจะทรงอยู่ไม่ได้ เพราะถ้าไม่มีคนนับถือ ไม่มีคนปฏิบัติตาม พระพุทธศาสนาเกิดไม่ได้ ฉะนั้นท่านต้องกลับลงไปรวมไทยเดิมให้เป็นไทยตามเดิม” เอาอีกแล้ว

ท่านองค์นี้ขยันเตือนจริง ๆ จะลงมาเกิดเองก็ไม่ลงมา จึงถามท่านว่า จะไปลงที่ไหนล่ะ
 
 ท่านผกาพรหมบอกว่า “โน่น ไปลงที่อู่ทอง ไปหาทางเข้าครองเมืองให้ได้ เป็นกำลังใหญ่ของเมือง อย่าเพิ่งเป็นพระเจ้าแผ่นดิน”
ถามว่า จะจัดใครลงไปบ้าง
ท่านผกาพรหมก็บอก จะจัดเทวดา พรหม ลงมาช่วยพอสมควร แหมท่านผกาพรหมนี่มีหน้าที่จัดอย่างเดียว น่าจะแต่งตั้งเป็นประธานาธิบดีพรหมจัด ประเภทจัดให้คนอื่นเขาทำงาน แต่ตัวเองไม่ทำน่ะ
 นี่ พอคุยละมายืนต่อว่า

ท่านบอกว่า “มันเป็นหน้าที่ของพระเจ้ามังรายเขา เขามีความปรารถนาอย่างนั้น ก็คอยบอกเขาให้ทำอย่างนั้น”
 
 เป็นอันว่าพรหมพระเจ้ามังราย ก็ลงมาเกิดเป็นวาระที่ ๖ ในช่วงระยะเพียง ๒,๐๐๐ ปีเศษ เกิดในเมืองอู่ทอง เขาให้นามว่า “ขุนหลวงพระงั่ว”
ตอนนี้ก็หาทางรวมไทยเข้าด้วยกัน ใช้วิธีการทั้ง ๒ อย่าง คือ รบด้วยอาวุธ และรบด้วยลิ้น

การรบด้วยลิ้นถือว่ามีความสำคัญมากกว่าการรบด้วยอาวุธ เมื่อหาทางไปตีสุโขทัยเข้ามารวมกันไม่ได้ ก็เจรจาเป็นเพื่อนกันดีกว่า เพราะตอนนี้พระเจ้าอู่ทองสร้างกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ที่หนองโสนแล้ว
 
 ขุนหลวงพระงั่วเข้าไปหาพระเจ้าลิไท เจรจากันว่า “คนไทยเรานับถือพระพุทธศาสนา และเวลานี้ พระธรรมวินัยขององค์สมเด็จพระพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากระจัดกระจายไป เราควรจะรวบรวมพระธรรมวินัยให้เป็นหมวดหมู่ จะได้เป็นหลักฐานในการสร้างความดีของคนไทย”
 
 พระเจ้าลิไท ท่านก็เป็นคนดี บอก โอ.เค. ด้วย ไม่ถือโทษโกรธเคืองที่เคยยกทัพไปตีท่าน
 ต่อมามีการนิมนต์พระสงฆ์ไปรวบรวมพระธรรมวินัย ใครรู้อะไร ใครมีตำราอะไร ก็มารวบรวมกันไว้
ต่อมาท่านก็คิดว่า ควรจะให้คนไทยรู้จักบาปรู้จักบุญ จึงนิมนต์พระสงฆ์มาร่าง “ไตรภูมิพระร่วง” ขึ้น การร่างไตรภูมิพระร่วงนี่ ความจริงพระร่วงไม่ได้ทำ ท่านเป็นเพียงศาสนูปถัมภ์ มีขุนหลวงพระงั่วไปร่วมกับบรรดาพระสงฆ์ที่นิมนต์มาด้วย เป็นการร่วมมือกันระหว่างสุโขทัย และกรุงศรีอยุธยา

และต่อมาก็ได้ร่วมกันอีกสร้าง พระพุทธชินราช สร้างพระพุทธชินสีห์ และสร้างพระศากยมุนี ขึ้นมาเป็นมิ่งขวัญของเมืองไทย เป็นการแสดงสัญลักษณ์ว่าประเทศไทยจะทรงตัวอยู่ได้ด้วยเหตุ ๓ เส้า ด้วยกันคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
พระพุทธชินราช หมายถึง พระมหากษัตริย์
 พระพุทธชินสีห์ หมายถึง พระศาสนา
 พระศากยมุนี หมายถึง ชาติ

การสร้างคราวนี้ก็เป็นหน้าที่ของ ท้าวโกสีสักกะเทวราช ให้พระวิษณุกรรมมาช่วย นี่ท่านผู้ใหญ่ท่านเล่าให้ฟังอย่างนี้นะ ถ้าใครไม่เชื่อก็ไปเอาคนตายมาถามดูก็แล้วกัน
 
 ต่อมาภายหลังขุนหลวงพระงั่ว ก็มีโอกาสเข้ารวมไทยให้เป็นไทยเดียวกัน เป็นอันว่าสุโขทัย กับกรุงศรีอยุธยาก็รวมเป็นประเทศเดียวกัน เรื่องทั้งหลายนอกจากนี้เป็นเรื่องของประวัติศาสตร์เขาเขียนไว้แล้ว ถูกบ้าง ผิดบ้าง เราจะมานั่งพูดเรื่องประวัติศาสตร์กันก็ไม่ดีจะกลายเป็นรือฟื้นหาตะเข็บ ดีไม่ดีเล็บจะไปทิ่มเอาเข็มเข้าไม่เกิดประโยชน์
 
 ลูกรักทั้งหลาย เป็นอันว่าพระเจ้ามังรายนี่เป็นพระเจ้าจอมเกิด เกิดทีไรยุ่งทุกทีจะต้องหาทางรวมไทยให้เป็นไท สร้างความสมัครสมานสามัคคีให้เกิด เห็นไหมว่า พระเจ้ามังรายท่านสร้างบุญแค่ไหน เวลานี้ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนมาเกิดก็ดีหรอก ถ้าใช้ลัทธิพระเจ้าพรหมมหาราช และพระร่วงโรจน์ฤทธิ์ มีหวังหัวขาดไปตาม ๆ กัน เพราะมีไทยขายชาติไทยทำลายชาติ นี่ไอ้พวกขอมเก่ามันมาเกิดในประเทศไทยแล้วมันก็หวังความเป็นใหญ่ในประเทศไทย

เราจะสังเกตได้ว่า ไอ้พวกขอมเก่าที่มาเกิดแทรกแซงนี่ เวลามันพูดละก็มันพูดดี แต่เวลาทำมันทำเลว และนิสัยของคนไทยไม่ค่อยจำ เจ็บแล้วไม่จำเพราะว่าเขาให้สตางค์เมื่อไรเลิกจำเมื่อนั้น จำได้อย่างเดียวเขาให้สตางค์ เพียงเขาให้สตางค์ ๑๐ บาท ก็ลงคะแนนให้เขา ไม่ได้คิดเลยว่าการที่เขาให้สตางค์เรามาน่ะ เขาต้องหากำไร ชาติจะฉิบหายวายป่วงยังไงช่างมัน ขอให้ได้สตางค์ก็แล้วกัน นี่มันเป็นเสียอย่างนี้ การที่เด็กนักศึกษาเข้าป่าไปน่ะ ความจริงเราจะไปหาว่าเขาเป็นคอมมูนิสต์ก็ไม่ถูกเสมอไป เราต้องดูน้ำใจเขา เช่น บางคนก็หวังผิดไปจริง ๆ บางคนก็ว่าตามเข้าไม่ใช้มันสมองก็มี แต่บางคนคิดเพื่อความหวังดีของชาติอันนี้ก็มีมาก เพราะเคยพบ เคยเห็น เคยคุยกัน บางคนเจตนาเขาดี แต่มันไม่เป็นที่ถูกใจของคนบางพวก
 
ที่มา : จากเรื่องจริงอิงนิทานพิเศษ
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น