..." เราก็มาวัดถึง บารมีของพวกเรา.. บารมี พระพุทธเจ้าทรงจัดไว้เป็น ๓ ระดับ คือ :-
๑. บารมีต้น ท่านเรียกว่า บารมี เฉย ๆ
.. คนที่มีบารมีต้น เต็มบ้าง ไม่เต็มบ้าง เต็มก็ดี ถ้าไม่เต็ม พร่องมากเกินไป คนประเภทนี้ เขาจะเจริญกรรมฐานไม่ได้
.. บารมี แปลว่า เต็ม แต่ว่า พระพุทธเจ้า ให้แปลว่า กำลังใจเต็ม บารมี ก็คือ กำลังใจมันเต็มพร้อมในขั้นไหน ถ้าเต็มพร้อม ในขั้นต้น หรือ ไม่เต็มในขั้นต้น พวกนี้ ยังเจริญพระกรรมฐานไม่ได้ กำลังใจไม่พอ.
.. ถ้าเราไปชวนเขาเจริญพระกรรมฐาน เขาจะบอกว่า ไม่ว่างละ จิตไม่สงบบ้าง ใช่ไหม.
๒. ทีนี้ อุปบารมี
.. อุป แปลว่า เข้าไป หรือ ใกล้ ใกล้จะเต็ม หรือ เข้าไปเพื่อเต็ม เป็นบารมีขั้นกลาง
.. คนที่มีบารมีขั้นกลาง เวลาถ้าชวนเจริญกรรมฐาน เขาสามารถเจริญได้ แต่ว่า เขาฝึกฝนจริง ๆ
.. ถ้าเราชวนไปนิพพาน เขาจะบอกว่า เขายังไม่พร้อมไปพระนิพพาน จำให้ดีนะ ทุกคนนะ ลองไปถามใครดูบ้างก็ได้ เขายังไม่พร้อมที่จะไปพระนิพพาน.
* โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเขาจะฝึก มโนมยิทธิ อย่างพวกเรา เขาจะไม่สามารถเข้าเขตนิพพานได้ ใช่ไหม
* พวกไปถึงนิพพานไม่ได้ มีเยอะนะ พวกนี้จะเข้านิพพานไม่ได้ เพราะ บารมีไม่ถึง ถึงแม้จะใช้กำลังหนักแน่น ขนาดไหนก็ตาม เขาจะใช้อารมณ์ผิด มันจะพลาด จะไปแค่สวรรค์ แค่พรหมโลก อันนี้ เขาอาจจะไปได้ แต่ว่า ชวนไปพระนิพพาน เขาขึ้นไม่ถึง มันมืด.
๓. ทีนี้ พวกที่มีบารมีเป็น ปรมัตถบารมี
.. ปรมัตถบารมี นี่ พร้อม หรือ ใกล้ หรือ มีโอกาสเข้าพระนิพพานได้ พวกนี้จะเข้าเขต นิพพาน ได้.
.. ถ้าเข้าเขตนิพพานได้ แต่ก็ต้องสังเกต ในเขตนิพพาน เรามีวิมานไหม
* ถ้าเรามีวิมานอยู่ที่นิพพานแน่นอนแล้ว มาดูที่พรหม วิมานเรามีไหม มาดูที่สวรรค์ วิมานเรามีไหม ถ้าวิมานที่สวรรค์ไม่มี วิมานที่พรหมโลกไม่มี มีแต่ที่นิพพานอย่างเดียว อันนี้ ชาตินี้เรามีโอกาส ไปนิพพานได้แน่นอน..."
( จากหนังสือ "คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง" เล่มที่ ๔๙ หน้าที่ ๓๑ ของวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี.. ภาพพระพุทธรูปผาติกรรมสังฆทาน ในพระมหาวิหาร ๑๐๐ ปี พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง..ภาพประกอบและคัดลอก โดย ยุพยง พัฒนเจริญ )
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น