ระหว่างที่มนุษย์เราเรียกว่า UFO นั้น เป็นพาหนะที่ที่พวกเขาไม่รู้จัก ถ้ามองจากรูปธรรมต่าง
ดาว
มันเป็นเพียงแค่ยานพาหนะเท่านั้น เพื่อใช้มันเคลื่อนที่ไปในช่องว่างกาลอวกาศ พวกเขาจึงอยากให้พวกเราเรียกว่ายานบินอวกาศจึงจะเหมาะ
ภายในยานบินอวกาศ ข้างในมันมีโครงสร้างเป็นกึ่งสิ่งมีชีวิตที่สามารถแปรเปลี่ยนรูปร่างตัว
เองได้
เมื่อเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเหนือแสง โครงสร้างภายในจะถูกอัดแน่นด้วยแรงดึงดูดที่สูงมาก
เพื่อเป็นการลดนํ้าหนักถ่วง มันจึงต้องออกแบบโครงสร้างเป็นแบบนี้ เมื่อเคลื่อนที่โดยการ
วาปด้วยความเร็วสูงสุด
พวกเขาจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับยานบินท่องอวกาศแล้วด้วยการรวมกันนั้นเองพวกเขา
จึงสามารถดำรงชีวิตของตนอยู่ได้โดยไม่รู้สึกถึงแรงกดอากาศที่มหาศาลรายรอบตัวพวกเขาได้
มนุษย์เราอาจมองเห็นพวกเขาได้บ้างหรือไม่ได้บ้าง เพราะโดยพื้นฐานแล้วพวกเขาอยู่ในมิติที่สูงกว่ามนุษย์
อยู่ในคลื่นความถี่มิติที่สูงกว่า ตาเนื้อมนุษย์ก็ไม่สามารถมองเห็นพวกเขาได้ แต่เมื่อพวกเขาลดคลื่นความถี่ลง
เมื่อมาปฎิบัติหน้าที่บางสิ่งบางอย่างที่เป็นคุณต่อมนุษย์พวกเราจึงจะสามารถมองเห็นพวกเขาได้
เราจะเห็นบ่อยแถบเปรู เม็กซิโก นั่นคือการบินชนิดลดคลื่นความถี่ลงมานั่นเอง โดยปกติจะ
อยู่ในคลื่นความถี่ที่มนุษย์มองไม่เห็น แต่คนที่มีพลังจิตสูงๆ หรือมีตาทิพย์ก็สามารถติดต่อสื่อสารกับพวกเขาได้
แต่ถ้าพวกเราไม่สามารถเห็นพวกเขาด้วยตาเนื้อได้ พ่อว่าไม่ต้องเสียดายเลยนะ พ่อจะบอก
วิธีสังเกตุเคร่าๆ ให้ลูกๆ สังเกตุท้องฟ้าในวันที่มีอากาศแจ่มใส ลมแรง ปกติเมฆจะไหลไปตามกระแสลม
บางขณะถึงลมจะแรงสักปานใด เมฆจะคงตัวอยู่ในรูปแบบร่ม ไม่ยอมเคลื่อนที่ไปไหนนั่นละ
ภายในคือยานบินของเราที่พรางตัวอยู่ล่ะ ยานบินของเราขับเคลื่อนด้วยการสร้างสนามพลังแม่เหล็กขึ้นมา
บริเวณรอบๆ ยาน ในกรณีที่มีปริมาณนํ้าลอยอยู่ในอากาศ ยานของเราก็จะเปลี่ยนพลังงานไอนํ้านั้น
ให้ควบแน่นก็จะปรากฎเป็นรูปเมฆคล้ายร่มหรือเป็นรูปเมฆวงกลม เป็นรูปคล้ายจานเพื่อห่อหุ้มยานบินของเรา
แม้ลมจะแรงแต่ยานบินรูปเมฆของเราก็ยังอยู่กับที่ หากลูกๆ เห็นเมฆแบบนี้ไม่ผิดแน่มีพวกเราอยู่ในนั้นแน่นอน...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น