#เรื่องวันข้าวประดับประดิน#
• อย่างวันนี้แหละที่เรียกว่า วันข้าวประดับประดิน บรรพบุรุษของเราทั้งหลาย ที่บ้านเรา ที่ต้องห่อข้าว ห่อข้าวเล็ก ๆ กล้วยบ้างข้าวบ้างอะไรบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ห่อเสร็จแล้วก็เอาไปวางไว้บริเวณวัดบริเวณหน้าวัดต่าง ๆ เพื่อคิดว่าจะให้ผีพ่อผีแม่นั้นมากิน อืม เป็นธรรมดา เป็นธรรมเนียมของพวกเราทั้งหลาย ทำมาก็เพราะอะไร เพราะเป็นอนุสติ ความระลึกถึงผู้มีพระคุณ แต่ไม่รู้จักว่าจะทำอย่างไร ก็เลยทำปีหนึ่งผ่านไป นึกถึงบิดามารดา ท่านเคยพาทำก็เลยทำ ก็เลยเอาแกง เอาส้ม เอาข้าว เอาหวาน เอาอะไรต่าง ๆ พากันห่อแล้วไปวางไว้
ตามภาษาบุญชนิดนี้เรียกว่าข้าวประดับประดิน ข้าวประดับดิน คือทำบุญอุทิศให้ผีพ่อผีแม่เรา ซึ่งเรามาควรนึกดูว่าในหนึ่งปีเราเอาให้กินหนึ่งครั้ง มันจะเหลืออยู่มั๊ย?!! และให้กินนิดเดียวด้วยซ้ำ ห่อใส่ใบตองกล้วยห่อเท่าสองสามนิ้วนี่ กล้วยลูกหนึ่งก็ตัดสี่ชิ้นห้าชิ้น แล้วให้กินเพื่ออุทิศให้ ผีพ่อผีแม่ผีปู่ย่าตายายเรากิน ปีหนึ่งทำครั้งหนึ่งน่ะ
ถ้าหากว่าเรารอเอาบุญตอนตาย ถ้าเขาห่อให้เรากินแบบนี้ มันจะเป็นอย่างไร??!! หือ!! นี่แหละ การกระทำบุญให้ทานนั้น ให้เราวิจัย ให้เราพิจารณา ฉะนั้นบุญกุศลอันนี้ ให้พวกเราถือเสียว่า ให้ทำเอาตอนแต่เมื่อเรามีชีวิตอยู่ บางคนทอดธุระ น่ะ หาข้าวของเงินทอง ให้ลูกหลาน เพื่อไปสร้างบุญสร้างกุศลให้ แล้วก็ตายไปเฉย ๆ เพื่อให้เขาทำให้ คนนี้คิดผิดมาก ไม่มีที่พระพุทธเจ้าท่านสอนว่าให้ทำบุญตอนตาย ให้บุคคลอื่นทำให้นั้นไม่มี ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก
เรื่องการทำบุญให้คนตายนั้น มันก็เป็นกตัญญูกตเวที แก่บุคคลที่มีคุณ จะให้มันเต็มเม็ด เต็มหน่วยนั้น ไม่มีหรอก พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้สรรเสริญ ถึงแม้ว่าฟังพระธรรมเทศนาก็เหมือนกัน พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้เกี่ยวถึงคนตายฟังธรรม ฟังเทศน์ ท่านไม่ได้เกี่ยว เพราะมันฟังไม่เป็น..ฯ|.
ธรรมเทศนา
พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภทฺโท)
วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น